สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในสวีเดน วันนี้เราพามาเที่ยวกรุงสตอกโฮล์ม Stockholm ประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่มีขนาดใหญ่ และเป็นนครหลวงที่งดงาม
สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในสวีเดน สวยถึงขั้นได้รับขนานนามว่า ความงามบนผิวน้ำ (Beauty on Water) หรือราชินีแห่งทะเลบอลติก เลยทีเดียววว จัดเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า ที่ทั้งสวยและร่ำรวยด้วยประวัติศาสตร์ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ อะไรบ้างงงเที่ยวย่านเมืองเก่า Gamla Stan
Gamla Stan ในภาษาสวีเดน แปลว่า เมืองเก่า ที่นี่มีมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งเมืองสตอกโฮล์มนู่นนนนค่ะ เป็นส่วนที่เก่าแก่และล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในเมืองเลยทีเดียว เป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังหลวง และยังคงกลิ่นอายย้อนยุคของศตวรรษที่ 17 ผสมผสานกับความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวค่ะ
บริเวณแถบพระราชวัง มีตรอกซอกซอยต่างๆ เต็มไปด้วยร้านค้าที่มีให้เลือกชมมากมาย เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟและร้านหนังสือ ให้เราได้เดินกันไม่รู้เบื่อเลยล่ะค่ะ ทั้งยังได้เที่ยวชมสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนมีความสวยงามในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน อาคารบ้านเรือนสมัยโบราณราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาสภาพอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่ได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ
เป็นสถานที่เที่ยวที่มีทั้งพระราชวังและสถาปัตยกรรมย้อนยุคสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันจนจุใจ รวมไปถึงแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ถือเป็นสถานที่โปรดของนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียวค่า
เที่ยวชมสถานีรถไฟใต้ดินสตอกโฮล์ม Stockholm Metro
หนึ่งในเมืองที่มีสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก คือกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนค่า เสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะใต้ดินที่ใหญ่ และยาวที่สุดในโลก เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1950 ปัจจุบันมีจำนวน 100 สถานี โดยเป็นสถานีใต้ดิน 47 สถานี และยกระดับ 53 สถานี มีจำนวน 10 เส้นทาง จัดเป็นกลุ่มสาย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสายสีน้ำเงิน แดง และเขียว มีระยะทางยาวกว่า 110 กิโลเมตรเลยทีเดียว
โดยสถานีที่น่าสนใจ ได้แก่
Blue line: Kungstr dg rden / T-centralen /R dhuset / Solna Centrum / Tensta
Green line: H torget / Thorildsplan / Bagarmossen
Red line: Tekniska H gskolan / Stadion
ซึ่งแต่ละสถานี จะมีความเป็นเอกลักษณ์ มีธีมโดยเฉพาะ ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ลวดลายสวยงาม ทั้งสวย ทั้งน่าตื่นตาตื่นใจ ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินกว่า 150 คน โดยนอกจากเราจะได้ชื่นชมในศิลปะแล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของรถไฟใต้ดินไปพร้อมๆ กันอีกด้วยค่า ใครที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวกรุงสตอกโฮล์ม ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ ไม่งั้นเรียกว่า มาไม่ถึงนะจะบอกให้
พิธีมอบรางวัลโนเบล ณ ศาลาว่าการเมืองสตอกโฮล์ม Stockholm City Hall
ศาลาว่าการเมืองสตอกโฮล์ม ในภาษาท้องถิ่นเรียกว่า Stadshuset เป็นสถานที่ทำงานของนักการเมือง และข้าราชการจำนวนหนึ่ง แต่ก็เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งของเมืองสตอกโฮล์มด้วยนะคะ เพราะได้มีการจัดแสดงทั้งศิลปะและโบราณวัตถุต่างๆ หลากหลายประเภทให้คนเข้าชม เป็นอาคารที่มีความสวยงามสะดุดตา ด้วยคุณลักษณะพิเศษของตัวอาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดง ดูมีมนต์เสน่ห์ และทรงพลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะที่ยิ่งใหญ่ ทั้งวิวทิวทัศน์ บรรยากาศโดยรอบยังสวยงามไม่แพ้กัน ใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ที่สำคัญ ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่ในการมอบรางวัลโนเบล รางวัลอันทรงเกียรติและทรงคุณค่าของโลกอีกด้วยค่ะ
เที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Skansen
Skansen เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกในโลก ตั้งอยู่บนเกาะ Djurgarden ค่ะ เปิดขึ้นในปี 1891 ที่นี่ได้รวบรวมบ้านเก่าแก่ของสวีเดน ตั้งแต่ภาคเหนือจรดใต้มาไว้ในที่เดียว เพื่อเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคนของคนสวีเดนในยุคก่อน ซึ่งเค้าจะจำลองวิถีชีวิต บ้านเมือง ผู้คน สิ่งแวดล้อม ตลอดจนวัฒนธรรมเก่าๆ มาไว้ให้เราได้ชมกัน
พิพิธภัณฑ์และสวนสัตว์ Skansen เปิดให้บริการทุกวันค่ะ เหมาะแก่การหอบหิ้วลูกหลานมาเที่ยว หรือจะมาเที่ยวยกแกงค์กับเพื่อนฝูงก็สนุกอย่างแน่นอนค่า ใครพลาดชมที่นี่คงน่าเสียดายแย่เลย ฉะนั้นห้ามพลาดดดดค่ะ!
นอกจากนี้ยังมีสวนสัตว์ซึ่งรวบรวมพันธุ์สัตว์หายากในแถบสแกนดิเนเวียมากกว่า 300 สายพันธุ์ เปิดบริการให้เข้าชมได้ด้วย ทั้งหมีสีน้ำตาล หมาป่า ลิงบาบูน และสัตว์สายพันธุ์ท้องถิ่นอื่นๆ อย่างใกล้ชิด เจ้าสิงโตทะเลนี่น่ารักไม่เบา เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากมายเลยค่ะ พวกมันคงหิวโซแล้วหละ รอเจ้าหน้าที่มาให้อาหารอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ
เที่ยวพิพิธภัณฑ์วาซา Vasa Museum
พิพิธภัณฑ์วาซา Vasa Museum, Stockholm สวีเดน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ตั้งอยู่บนเกาะ Djurgarden ในเขต Ostermalm ของสตอกโฮล์ม เป็นพิพิธภัณฑ์เรือรบโบราณที่เป็นทรัพย์สมบัติที่โดดเด่นและล้ำค่าเป็นอย่างมากค่ะ
วาซา คือเรือรบแห่งราชอาณาจักรสวีเดน เป็นเรือรบที่ยิ่งใหญ่สง่างามจริงๆ ประดับประดาด้วยรูปแกะสลักสมัยโบราณนับร้อยชิ้น ว่ากันว่าทำมาจากไม้โอ๊กทั้งลำ ทำให้เรือลำนี้ทรงอานุภาพ น่าเกรงขาม และมูลค่าลงทุนแพงที่สุดในเวลานั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการทำสงคราม แต่กลับยังไม่มีโอกาสที่จะได้ออกไปพบศัตรูเลยค่ะ ก็ได้จมลงสู่ก้นทะเลหลังจากได้ถูกปล่อยลงน้ำได้เพียง 30 นาทีเท่านั้น และถูกทิ้งให้จมอยู่ใต้ทะเลบอลติกนานถึง 333 ปีเลยทีเดียว ก่อนที่จะได้รับการกู้ขึ้นมาในศตวรรษที่ 17 และถูกนำมาตั้งแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั่นเองค่ะ เนื่องจากสามารถรักษาโครงสร้างและชิ้นส่วนเดิมของเรือไว้ได้กว่า 95 เปอร์เซ็นต์แน่ะ
เรือวาซา ถือได้ว่าเป็นทรัพย์สมบัติทางศิลปะที่โดดเด่น และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของสวีเดน ลองไปชมความยิ่งใหญ่ของเรือรบนี้ด้วยตาตัวเองกันนะคะ
เที่ยวชมสะพาน Oresund สะพานยาวที่สุดในยุโรป เชื่อมเดนมาร์กและสวีเดน
สะพาน resund Bridge เป็นสะพานที่ยาวที่สุดของยุโรป ยาวประมาณ 12 กม. เป็นสะพาน 8 กม. และเป็นอุโมงค์ใต้ทะเล 4 กม. เปิดใช้เมื่อปี 2000 เชื่อมต่อเมืองโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์กกับ Malmo สวีเดน สะพานนี้มีความสวยงาม โดดเด่นมาก และใช้ได้ทั้งรถยนต์ และรถไฟ ถ้าใครมีโอกาสเดินทางระหว่างสองประเทศนี้ ก็อย่าลืมแวะไปถ่ายรูป ตอนข้ามสะพานนี้กันนะค้า
ถ่ายรูปกับมงกุฎทองอร่ามบนสะพาน Skeppsholmen Bridge
ภาพมงกุฏสีทองสวยงามอร่ามที่ดูคุ้นตาในโปสการ์ดของสวีเดน ทำให้ที่นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยมีภาพเมืองเก่าปรากฏเป็นฉากหลังจ้า
สะพาน Skeppsholmen Bridge เป็นสะพานใจกลางเมืองหลวงกรุงสตอกโฮล์ม โดยเชื่อมต่อจาก Blasieholmen มายังเกาะ Skeppsholmen ตัวสะพานนั้นมีความยาว 165 เมตร และกว้าง 9.5 เมตร นักท่องเที่ยวมักจะนั่งเรือเที่ยวชมความงามผ่านใต้สะพานนี้ค่ะถ้าใครอยากมีภาพโปสการ์ดที่ถ่ายด้วยฝีมือตัวเองไปอวดเพื่อน มาถ่ายมุมนี้เลยค่า งดงาม..
ไปพักโรงแรมน้ำแข็ง ICEHOTEL
โรงแรมน้ำแข็ง ICEHOTEL เป็นโรงแรมน้ำแข็งแห่งแรกของโลกค่ะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1994 ตั้งอยู่ที่เมือง Kiruna สร้างด้วยหิมะและน้ำแข็งจาก Torne River ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดทีเดียวค่า
ที่นี่มีที่พัก 2 ส่วนด้วยกันคือ Cold Accumodation และ Warm Accumodation ในส่วน Cold Accumodation คือห้องที่ทำจากน้ำแข็ง เป็นไฮไลท์ของโรงแรมและได้รับความนิยมอย่างมากค่ะ ทั้งโต๊ะ ตู้ เตียง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จะทำจากน้ำแข็งทั้งหมด โดยอุณหภูมิเฉลี่ยในโรงแรมจะอยู่ที่ -5 องศา! อู้วววว จะเปิดให้เข้าพักได้ในเดือนธันวาคมถึงประมาณกลางเดือนเมษายนของทุกปีค่ะ เมื่ออากาศเริ่มร้อนขึ้น น้ำแข็งก็จะค่อยๆ เริ่มละลายลง และสูญสลายไปเองตามสภาพ และจะมีการสร้างขึ้นใหม่ในทุกๆ ปีค่า โดยต่ละห้องจะถูกออกแบบโดยดีไซเนอร์แต่ละคน ทำให้ห้องออกมาแตกต่างกันและมีเอกลักษณ์ของตัวเองค่ะ
ส่วน Warm Accumodation ก็เป็นห้องพักแบบปกติ และราคาถูกกว่าค่า และภายในโรงแรมน้ำแข็งแห่งนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง โรงหนัง ไนท์คลับ บาร์น้ำแข็ง ห้องแสดงนิทรรศการ และโบสถ์เล็กๆ สำหรับการแต่งงานสุดคูลลลล รายล้อมไปด้วยปฎิมากรรมน้ำแข็งสวยงามจากการสลักของช่างสลักน้ำแข็งชั้นนำของโลก ใครอยากจะหนีจากอากาศร้อนๆ บ้านเรา ก็มาเปลี่ยนบรรยากาศที่นี่ได้นะค้า
ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.yingpook.com
No comments:
Post a Comment