สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในกรีนแลนด์ มีขนาดใหญ่มากกว่าพื้นที่ของรัฐเท็กซัสถึงสามเท่า ตั้งอยู่ทางภาคเหนือมหาสมุทรอาร์กติก ดินแดนของชาวอินุอิต หรือชนเผ่าเอสกีโม
เที่ยวธารน้ำแข็งอิควิ (The Eqi Glacier)
Eqip Sermia เป็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่รองลงมาจาก Sermeq Kujalleq ใน Icefjord และมีชื่อเสียงที่สุดของกรีนแลนด์ ตั้งอยู่ห่างออกไประยะทาง 80 กิโลเมตร สุดเขตทางเหนือจากตัวเมืองอิลลูลิแซท ธารน้ำแข็งอิควิมีขนาดกว้าง 5 กิโลเมตร และมีกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ 200 เมตร การได้มาเห็น สัมผัสประสบการณ์ สำรวจธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดนั้น เป็นกิจกรรมแปลกใหม่ที่ควรลอง และห้ามพลาดเมื่อมาถึงกรีนแลนด์ค่ะ เราสามารถเข้าถึงธารน้ำแข็งอิควิได้โดยเรือเหล็กขนาดไม่ใหญ่มาก โดยต้องซื้อทัวร์ล่วงหน้า กิจกรรมหลักๆ ของการสำรวจธารน้ำแข็งอิควิ ได้แก่ การล่องเรือบนธารน้ำแข็ง สำรวจก้อนน้ำแข็งมหึมาที่กำลังเคลื่อนตัว เมื่อน้ำแข็งก้อนยักษ์เคลื่อนตัวจะมีเสียงดังกึกก้อง อันนี้คือไฮไลท์ที่เหล่านักท่องเที่ยวต้องร้องดัง ว้าวว! รีบยกกล้องขึ้นมาอัดวิดีโอไว้เป็นความทรงจำที่ยากจะได้มาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ
ต่อจากนั้นเรือจะพาเราล่องผ่านช่องแคบ Ataa ซึ่งล้อมรอบไปด้วยแนวเขา ชมนก และน้ำตกที่อยู่ใจกลางธารน้ำแข็งแห่งนี้ จากนั้นเรือก็จะล่องสำรวจต่อไปยัง ชุมชน Oqaatsut ที่ตั้งอยู่เรียบชายฝั่งทะเลเส้นทางผ่านไปยัง พาคิทซอค (Pakitsoq) หรือ ชั้นหินที่ถูกสร้างมาจากน้ำแข็ง พื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่เราอาจจะได้เห็นปลาวาฬ และแมวน้ำด้วยค่ะ ระยะเวลาสำหรับการทัวร์ธารน้ำแข็งนั้นใช้เวลาประมาณ 2 – 5 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับการเคลื่อนตัวของน้ำแข็ง ตลอดทางจะมีผู้ดูแล และไกด์คอยให้ความรู้อย่างใกล้ชิด ราคาทัวร์ครั้งนี้จะอยู่ที่ 363 ดอลล่าร์ หรือ ประมาณ 11,700 บาทค่ะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.worldofgreenland.com/en/boat-trips-in-the-disko-bay/eqi-glacier-daytrip
เที่ยวอิลลูลิแซท ไอซ์ฟยอร์ด, ดิสโก้เบย์ (Ilulissat Icefjord, Disko Bay)
ดิสโก้เบย์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของกรีนแลนด์ สถานที่เช็คอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยว เรียกได้ว่าดิสโก้เบย์นั้นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวกรีนแลนด์มากขึ้นทุกปี การขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินเที่ยวชมเมือง เป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี่ วิวทิวทัศน์จากมุมสูง เมื่อเรามองลงมาภาพของอ่าวดิสโก้เบย์ที่เราเห็นนั้นไม่แตกต่างอะไรไปจากผลงานวาดภาพทิวทัศน์ชั้นดี ภาพพื้นดินที่ถูกตัดแบ่งด้วยสีฟ้าขาวโพลนของพื้นน้ำแข็งไกลสุดลูกหูลูกตานั้น จะเป็นภาพจดจำไว้ให้เราเล่าต่อประสบการณ์การท่องเที่ยวครั้งนี้ได้อย่างดี
อิลลูลิแซท เป็นเมืองหลักในดิสโก้เบย์ส่วนหนึ่งของการดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่นี่คือ การเยี่ยมชม อิลลูลิแซท ไอซ์ฟยอร์ด ถูกจัดให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ 250 กิโลเมตรเหนือห่างจากอาร์กติกเซอร์เคิล ทางปากอ่าวของทะเล Sermeq Kujalleq ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ธารน้ำแข็งของกรีนแลนด์ที่ไหลลงสู่ทะเล การเยี่ยมชม อิลลูลิแซท ไอซ์ฟจอร์ด เป็น 1 ในสถานที่ที่ควรใส่ไปลิสต์การเที่ยวท่องเที่ยวที่ต้องไปก่อนตายให้ได้ค่ะ เส้นทางเดินชมธารน้ำแข็ง คือ สิ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุด การเดินไปรอบเมืองล่องลงสู่เส้นทางเดินตัดภูเขาทะลุผ่านไปที่ปากอ่าว เราจะได้เจอกับภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่แม่น้ำฟยอร์ดในระยะใกล้สุดๆ จากการมองจากพื้นดิน และการมาดูพระอาทิตย์ตกแสงกระทบธารน้ำแข็งสีฟ้านวลให้กลายเป็นสีทองนั้น จะเป็นช่วงเวลาเก็บภาพที่สวยงามแน่นอนค่ะ
เที่ยวนุก (Nuuk)
นุก เมืองหลวงของประเทศกรีนแลนด์ พื้นที่สำหรับการสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ นุกเป็นเมืองที่มีสีสันแต่งแต้มไปด้วยความมีชีวิตชีวาของชาวกรีนแลนด์ สถานที่รวบรวมประเพณีเก่าๆ และความร่วมสมัยเข้าด้วยกัน แหล่งรวมสถานที่ช้อปปิ้ง เสื้อผ้า ร้านอาหาร รวมทั้งศูนย์วัฒนธรรม Katuaq สถานที่จัดนิทรรศการเกี่ยวกับแสงเหนือ และคอนเสิร์ตต่างๆ รวมทั้งยังมีท่าเรือเก่า ให้เป็นจุดเช็คอินเพื่อถ่ายรูปเก๋ๆ ยามพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วยค่ะ
มากรีนแลนด์ทั้งทีการลองไปนั่งชิลตามผับบาร์ของประเทศนี้ไม่ใช่เรื่องแย่ การได้สัมผัสการใช้ชีวิตของชาวเอสกิโมด้านฝั่งพื้นดินถือว่าเป็นอีกหนึ่งสีสัน ที่เราไม่สามารถหาได้จากที่ไหนๆ บนโลกนี้ ใครที่ชื่นชอบการดื่ม การได้ลิ้มลองเบียร์ท้องถิ่นก็ถือว่า เป็นประสบการณ์หนึ่งของนักดื่มที่ไม่ควรจะพลาดนะคะ นอกจากเบียร์แล้ว การดื่มเครื่องดื่มร้อนถือว่าเป็นแฟนชั่นสุดฮิตของที่นี่เลยก็ว่าได้ รู้หรือไม่ …ประชากรประเทศใดที่ดื่มกาแฟมากที่สุดต่อว่า ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก แอ๊ดด เฉลย! ชาวกรีนแลนด์นั่นเองค่าาาา โดยสถิติแล้วคนประเทศนี้จะดื่มกาแฟเฉลี่ยวันละ 8 แก้ว โอโห้! ดูเยอะใช่ไหมเอ่ย แต่…จริงๆ แล้ว กาแฟที่ได้รับความนิยมในแวดวงชาวกรีนแลนด์ก็คือ เอสเพรสโซ่ร้อน ซึ่งจะเสิร์ฟเป็นช็อตจ้า ด้วยอากาศที่ความหนาวระดับติดลบเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ช็อตเอสเพรสโซ่จะขายดิบดี ว่าแล้ว หญิงปุ๊กไปเปิดเฟรนไซน์ร้านกาแฟที่กรีนแลนด์ดีเป็นรายได้เสริมดีไหมน้า 555555
เที่ยวแม่น้ำบลู (The Blue River)
เดอะ บลู รีเวอร์ หรือ แม่น้ำบลู ธารน้ำแข็งที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ผืนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรีนแลนด์ ทุกๆ ฤดูใบไม้ผลิ เมื่อดวงอาทิตย์ขยับเข้ามาใกล้ซีกโลกเหนือ ผืนน้ำแข็งบางส่วนจะละลายกลายเป็นทะเลสาบสีฟ้าสด และเริ่มไหลลงสู่ธารน้ำแข็ง ค่อยๆ เริ่มขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นแม่น้ำที่ไหลทอดยาวอยู่บนจุดสูงสุดของโลก พื้นที่ที่เงียบสงบที่สุด และสวยงามที่สุดในโลก การเดินทางขึ้นไปยังแม่น้ำบลูค่อนข้างอันตราย และยากลำบาก เราจำเป็นต้องให้ทัวร์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญนำเราไปสำรวจแม่น้ำที่สวย และมหัศจรรย์ระดับโลก ทัวร์ที่เหมาะสำหรับการไปสำรวจแม่น้ำบลูอย่างใกล้ชิด คือ ทัวร์พายเรือคายัค โดยมีให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ ทัวร์แบบ 3 วัน 5 วัน และ 14 วัน แน่นอนว่าราคาก็จะแตกต่างกันไป กิจกรรมก็จะเพิ่มมากขึ้น และเสี่ยงมากขึ้นตามลำดับ กิจกรรมโดยรวมจะเป็นการพายเรือในแม่น้ำบลู สำรวจป่า พบปะชนเผ่าพื้นเมืองเก่าอย่างชาวอินุอิต แช่น้ำพุร้อนท่ามกลางธารน้ำแข็ง ดูแสงเหนือ เป็นต้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://the-blue-river.squarespace.com/tours/
เที่ยวเมืองคาคอร์ทอค (Qaqortoq)
เมืองคาคอร์ทอค เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ของกรีนแลนด์ แหล่งรวมวัฒนธรรม ศิลปะ ประวัติศาสตร์ และกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งยังเป็นเมืองท่าของกรีนแลนด์อีกด้วย คาคอร์ทอคเป็นเมืองท่าที่รับส่งสินค้าแปรรูปจากปลาและกุ้ง รวมทั้งยังเป็นท่าต่อเรือที่ใหญที่สุดในกรีนแลนด์ด้วยค่ะ ทิวทัศน์ของเมืองสามารถมองได้รอบทิศทาง ไกลออกไปในอ่าว ก็สามารถมองเห็นก้อนน้ำแข็งใหญ่ยักษ์ได้ที่สุดปลายขอบฟ้า เรียบริมฝั่งถูกตกแต่งไปด้วยหาดทราย และต้นปาล์มที่ดูค่อนข้างแปลกตาเมื่ออยู่ในประเทศที่ติดขั้วโลก
กิจกรรมสำหรับคนที่แวะมาพักผ่อนที่เมืองนี้ โดยหลักๆ แล้วจะเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง เดินป่า พายเรือคายัค แช่น้ำพุร้อน การเดินสำรวจ Stone & Man หรือ ภาพวาดบนหิน และจบด้วยการปีนพิชิตยอดเขาเพื่อชมวิวรอบเมือง อาจจะได้เจอะเจอกับฝูงแกะขนฟูที่เชิงเขาด้วยน้า นอกจากกิจกรรมกลางแจ้งแล้วยังมีการทัวร์ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะ ที่จัดแสดงไว้ในอาคาร พิพิธภัณฑ์คาคอร์ทอค (Qaqortoq Museum) ถูกสร้างขึ้นโดยสมาคมชาวกรีนแลนด์ สายล่าพิพิธภัณฑ์ชื่นชอบประวัติศาสตร์ อย่าลืมแวะเวียนกันไปนะคะ
เที่ยวดูแสงเหนือ (The Northern Lights)
กรีนแลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชื่นชอบที่จะมา ล่าแสงเหนือ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมถึงเดือนเมษายน ท้องฟ้าของกรีนแลนด์นั้นจะถูกแต่งเติมไปแสงสีบนท้องฟ้า แสงเหนือ (The Northern Light) จะปรากฏตัวออกมาเต้นระบำวาดสีสันอยู่บนท้องฟ้าซีกโลกเหนือนั้น จะมีให้เห็นเป็นประจำในช่วงหน้าร้อนจนถึงฤดูใบไม้ผลิของกรีนแลนด์ แสงเหนือแห่งกรีนแลนด์นั้น เปรียบเหมือน งานศิลปะสุดคลาสสิกแห่งอาร์กติก แสดงได้ถึงความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ไม่ถูกรบกวนจากมลพิษค่ะ การจะไปล่าแสงเหนือควรเลือกเวลาการจองทัวร์ให้ตรงกับช่วงเวลาที่เห็นแสงเหนือได้ชัดเจนค่ะ จะได้ไปไม่เสียเที่ยว สำหรับทัวร์ไปดูแสงเหนือโดยส่วนมากจะจัดมาให้เป็นแพ็คเก็ตรวมกับการสำรวจธารน้ำแข็ง ตั้งแคมป์ ราคาของแต่ละแพ็คเกจจะแตกต่างกันออกไปตามระยะเวลาของวันที่ไปทัวร์ สามารถดูรายเพิ่มเติมได้ที่ https://greenlandtours.com/en/tour/short-trip-greenland-icebergs-northern-lights/
เที่ยวสุนัขลากเลื่อนและทัวร์สโนว์โมบิล (Dog-Sledding and Snowmobile Tours)
กิจกรรมยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด การนั่งลากเลื่อนสุนัข นั่นเองค้า เคยเห็นกันในหนังใช่ไหมล่ะ ที่เหล่าน้องหมาตัวใหญ่ยักษ์ที่ลากเลื่อนให้คนนั่ง ดูน่าสนุกไม่ใช่น้อย มาถึงถิ่นแล้วก็ต้องลองดูสักหน่อยนะคะ นอกจากจะสนุกแล้ว ยังสามารถอัดคลิปเก็บเป็นโมเมนต์ไว้ลงอวดโชเชี่ยลให้อิจฉากันเล่นๆ ได้อีกด้วยน้า น้องหมายักษ์แต่ละตัวก็ดูน่าฟัดสุดๆ เลยยยย
และอีกหนึ่งกิจกรรมคือ การขี่สโนว์โมบิล หรือ เจ็ตสกีหิมะ ถูกใจทุกเพศทุกวัยแน่นอนคร้าบบบ บอกเลยว่าแอดเวนเจอร์สุดติ่ง สำหรับใครไปกันแบบยกแพ็คครอบครัว หรือ แก๊งค์เพื่อนๆ รับประกันความมันส์เลยจ้า มันส์กว่ารถบั๊มดรีมเวิร์ล 10 เท่า !! เราสามารถขับสโนว์โมบิลไปตามจุดต่างๆ บนเขาเพื่อชมวิวได้ ตามใจต้องการ แต่ก็ต้องอยู่ในเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้นะคะ อย่าลืม ความปลอดภัยสำคัญเสมอ ในที่อยากเล่นกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมแบบนี้ก็ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเล่นด้วยเช่นกันนะจ๊ะ สำหรับราคาของทั้งกิจกรรมจะอยู่ที่ 208.45 ดอลล่าร์ หรือ ประมาณ 6,700 บาทต่อคน สามารถจองล่วงหน้าได้ที่ https://www.fjordtours.com/things-to-do-in-norway/dog-sledding-and-snow-tours/
เที่ยวชมวาฬ (Whale Watching)
ทัวร์ชมวาฬ ในกรีนแลนด์เป็นสิ่งที่หลายๆ คนจับตามอง เพราะว่าในท้องทะเลเย็นเยือกแห่งนี้เต็มไปด้วยวาฬกว่า 15 ชนิด ที่ใครหลายๆ คนเฝ้านึกฝันอยากจะมาเห็น และสัมผัสด้วยตาของตัวเองสักครั้ง จากสารคดีสำรวจโลกที่เคยดูตอนเด็ก วาฬที่อาร์กติกนั้นดูสวยงาม ดุดัน กว่าที่ไหนๆ อาจจะด้วยสภาพแวดล้อมที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาน้ำแข็งยักษ์ เมื่อเจ้าวาฬทั้งหลายออกมาปรากฏตัวทำให้ดูยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม เมื่อพูดถึงลักษณะการล่าเหยื่อ ออกหากินแล้ว ยิ่งดูเท่ขึ้นไปอีก นั่นคือสิ่งที่เราได้เห็นผ่านจอทีวี แต่เมื่อเรามาถึงกรีนแลนด์แล้ว เราจะได้เห็นมันกับตา! ตื่นเต้นนนน ><
ในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิเหมาะแก่การออกสำรวจวาฬมากที่สุด เพราะวาฬหลังค่อม วาฬฟิน วาฬมิงก์ กลุ่มวาฬเฉพาะของกรีนแลนด์จะออกมาปรากฏตัวบ่อยครั้ง อย่างวาฬฟิน วาฬที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 รองมาจากวาฬสีน้ำเงิน ถ้าได้เห็นสักครั้งคงเป็นบุญตามากๆ เพราะวาฬชนิดนี้ใกล้จะสูญพันธุ์ลงไปทุกทีค่ะ นอกจากนี้ยังมี วาฬเบลูก้า วาฬนาร์วาลหัวแหลมคล้ายๆ กับยูนิคอนในท้องทะเล และวาฬโบเฮด หรือ วาฬหัวคันศรด้วยค่ะ การไปทัวร์ชมวาฬส่วนใหญ่จะอยู่ที่ นุก ซิซิมิวท์ ดิสโก้เบย์ อิลลูลิแซท และอาเซียต
อีกหนึ่งที่คือเกาะที่อยู่ทางตอนเหนือของกรีนแลนด์ที่ชื่อว่า Uummannaaq ค่ะ ระยะของการออกไปชมวาฬจะอยู่ที่ 3 ชั่วโมง ส่วนราคาจะแตกต่างกันไป สำหรับใครที่ไปเที่ยวที่อื่นๆ ด้วยจะเลือกจองเป็นแพ็คเกจตามที่ทางทัวร์เตรียมไว้ให้ก็อาจจะถูกกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าจองแบบแยกเฉพาะกิจกรรมดูวาฬ ราคาประมาณ 153 ดอลล่าร์ หรือ 5,000 บาทค่ะ
เที่ยวเซอร์เมอร์มิวท์ (Sermermiut)
เซอร์เมอร์มิวท์ ถูกยกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2004 โดยยูเนสโก ตั้งอยู่ห่างจากเมืองอิลลูลิแซทลงไปทางใต้ 1 กิโลเมตร เป็นหนึ่งภูเขาน้ำแข็งในอิลลูลิแซทไอซ์ฟยอร์ด และถิ่นพักอาศัยของชาวเอสกิโมในดิสโก้เบย์ ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากว่า 4,000 ปี เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวเอสกิโม รวมทั้งยังมีซากของประวัติศาสตร์ถูกฝังอยู่ที่นี่นับไม่ถ้วน เพราะในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ประมาณ 600 – 200 พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นแหล่งขุดซากวัฒนธรรมของนักโบราณคดี เพื่อศึกษาเกี่ยวกับ วัฒนธรรมซาคคาค (Saqqaq) ผู้ที่เคยตั้งรากฐานอยู่ที่แห่งนี้ก่อนชาวยุโรปจะมาครอบครองเมือง และกลายเป็นประเทศกรีนแลนด์ในปัจจุบัน
อุทยานแห่งชาติคันเกีย (Kangia National Park) ตั้งอยู่ในเซอร์เมอร์มิวท์เป็นเส้นทางเดินสำรวจที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากค่ะ โดยการปีนเขาเดินสำรวจเส้นทางนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ผ่านหุบเขาเซอร์เมอร์มิวท์ เมื่อพิชิตยอดเขา วิวทิวทัศน์ด้านหน้าคือสิ่งที่เราสามารถดื่มด่ำกับความสวยงามของธารน้ำแข็ง และภูเขาน้ำแข็งยักษ์สีขาวสะอาดด้านหน้าได้อย่างเต็มตา สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอดเลยค่ะ สำหรับการจะไปเยี่ยมชมเซอร์เมอร์มิวท์นั้น แตกต่างจากเส้นทางของอิลลูลิแซทที่ไม่ได้มีเส้นทางเดินเข้าไปได้เลย สำหรับจะเข้าชมเซอร์เมอร์มิวท์นั้นมีค่าผ่านประตู 46 ดอลล่าร์ หรือ 1,500 บาท และใครสนใจที่จะปีนเขาเซอร์เมอร์มิวท์ค่าทัวร์จะอยู่ที่ประมาณ 1,700 บาท สามารถจองล่วงหน้า และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.worldofgreenland.com/en/hiking-tours/sermermiut-settlement
เที่ยวน้ำพุร้อนอูนาร์ตอค (Uunartoq Hot Springs)
น้ำพุร้อนอูนาร์ตอค เป็นน้ำพุร้อนกลางแจ้งเพียงแห่งเดียวในกรีนแลนด์ ตั้งอยู่บนเกาะอูนาร์ตอค ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่มีผู้อาศัยอยู่ เกาะอูนาร์ตอคอยู่ระหว่างเมืองคาคอร์ทอค หมู่บ้าน Alluitsup Paa และเมืองนานอร์ทาลิกทางใต้ของกรีนแลนด์ น้ำพุร้อนกลางแจ้งกลางธรรมชาติแห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยทิวทัศน์ของหุบเขาน้ำแข็ง สามารถมองเห็นยอดเขาสูงได้อย่างสวยงาม น้ำพุร้อนแห่งนี้เกิดขึ้นจากน้ำพุร้อนทั้งสามสายจากทั้ง 3 เมืองนี้ไหลมารวมกัน การได้มาเอนตัวนอนแช่น้ำร้อนบนเกาะที่ไร้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างแห่งนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์การเที่ยวพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ไปเลย! และอีกหนึ่งสิ่งที่น้ำพุร้อนแห่งนี้แตกต่างจากน้ำพุร้อนอีกหลายสิบที่ใดๆ ในกรีนแลนด์นั่นคือ อุณหภูมิของน้ำพุร้อนอูนาร์ตอดนั้นมีความอุ่นมากกว่าที่อื่น ความร้อนของน้ำพุร้อนอูนาร์ตอคจะอยู่ที่ราวๆ 50 – 60 องศาเซียส ซึ่งถือว่าเป็นอุณหภูมิที่ช่วยเรื่องความผ่อนคลาย และทำให้การไหลเวียนของเลือดได้ดีมากทีเดียว แต่ก็ไม่ควรแช่จนลืมตัวนะคะ เพราะด้วยอุณหภูมิที่สูงขนาดนี้อาจจะทำให้เราวูบได้ เป็นห่วงนะคะ และอย่าลืมเตรียมชุดว่ายน้ำไปเพื่อจะแช่น้ำด้วยน้า เพื่อรักษาความสะอาดของธรรมชาตินะจ๊ะ
หากท่านต้องการไปเที่ยวกรีนแลนด์ ดินแดนขั้วโลกเหนือ สักครั้งในชีวิต ขอแนะนำการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ ที่ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย สะดวก สบาย และปลอดภัย เหมือนพกโรงแรม และร้านอาหารชั้นยอด เดินทางไปด้วยเลยค่ะ
เรือสำราญแนะนำ กรุณาคลิกเพื่อดูรายละเอียด MS Roald Amundsen
ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.yingpook.com
No comments:
Post a Comment