Friday, July 5, 2019
นรกบนเกาะสวรรค์ซานซิบาร์
หาดทรายสวยและประวัติศาสตร์การปล้นอิสรภาพที่ซานซิบาร์
ภาพเรือดอว (Dhow) เรือพื้นเมืองของซานซิบาร์ที่กำลังกางใบวิ่งฉิวราวกับล่องลอยอยู่เหนือท้องทะเลใสหลายเฉดสีในวันนี้เป็นดั่งภาพประทับใจที่ทำให้เราเคลิบเคลิ้มไปว่าเรากำลังอยู่บนเกาะสวรรค์
ซานซิบาร์ (Zanzibar) เป็นเกาะที่สวยมาก ๆ เต็มไปด้วยหาดสวยงามชื่อเสียงกระฉ่อนโลกที่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวปีละนับล้าน ๆ คน ช่วยสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำมาอย่างต่อเนื่องให้กับประเทศแทนซาเนีย
ในอดีตที่ผ่านมาหลายร้อยปี เรือดอวทำหน้าที่ขนสินค้ามากมายไปมาในน่านน้ำแอฟริกาตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น ไม้เนื้อดี งาช้าง หนังเสือ อัญมณี ทองคำ บาคาร่า เครื่องปั้นดินเผา ฝ้าย รวมทั้งเครื่องเทศหลากสีหลากกลิ่นรสจัดจ้าน....
หนึ่งในสินค้านั้นคือ ‘ทาส' ด้วยเช่นกัน
ติดกับตลาดดาราจานี ตลาดเก่าในเมืองสโตนทาวน์เมืองหลวงของซานซิบาร์ มีวิหารแองกลิคันหลังใหญ่ตั้งอยู่อย่างสวยงามโดดเด่น ทุกวันนี้ที่นี่คือศูนย์รวมใจชาวคริสต์บนแผ่นดินอิสลาม แต่ในอดีต ณ วิหารแองกลิคันแห่งนี้คือตลาดค้าทาสสำคัญของแอฟริกาตะวันออก
ชายหญิงชาวแอฟริกันจำนวนมากจากแผ่นดินใหญ่ในป่าลึก....ลึกไปจนถึงลุ่มแม่น้ำคองโกจะถูกจับถูกต้อนมาลงเรือดอวเพื่อเดินทางข้ามฟากแผ่นดินใหญ่ฝั่งแทนซาเนียมาสู่เกาะซานซิบาร์ ทั้งหมดถูกลำเลียงรอนแรมมาเช่นสินค้าอื่นๆ บนเรือดอว ที่มือและเท้าของเขาและเธอนั้นล้วนมีโซ่ตรวนพันธนาการไว้
เมื่อมาถึงเกาะ บริเวณตลาดทาสหน้าวิหารแองกลิคันแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยพ่อค้าชาวอาหรับจำนวนมากที่มารอดูสินค้าล็อตใหม่ที่เพิ่งส่งมาสด ๆ ร้อน ๆ จากผืนแผ่นดินกาฬทวีป พ่อค้าทาสเหล่านี้จะมาประมูลเอาทาสที่แข็งแรงไว้เพื่อนำไปขายทอดตลาดในผืนแผ่นดินอื่น ๆที่อยู่ไกลออกไปอย่างดินแดนต่าง ๆ ในคาบสมุทรอาหรับ จนกระทั่งถึงอินเดีย ด้วยราคาที่ได้กำไรอย่างงดงามจนสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับพ่อค้าทาสชาวอาหรับเหล่านั้น
ทาสคนใดก็ตามที่มีอาการเจ็บป่วยเพราะรอนแรมมากับเรืออย่างแออัดยัดทะนานนั้นถือเป็นสินค้ามีตำหนิราคาก็จะถูกลงทันที ส่วนใครที่มีอาการเจ็บป่วยมาก ๆ จนรู้ว่าไม่น่าจะเหลือกำลังแรงใด ๆ อีกแล้วนั้น ถือเป็นของเสียที่ต้องกำจัด
หลายคนจึง 'ไม่ได้ไปต่อ' และจบชีวิตลงตรงนี้
ทุกวันนี้ที่ข้างโบสถ์แองกลิคันจะมีอนุสาวรีย์ทาสที่ประกอบด้วยทาสชายหญิงจำนวนหนึ่งยืนอยู่ พร้อมโซ่ล่ามที่คอ ประติมากรรมนี้ตั้งอยู่ ณ จุดที่เคยเป็นศูนย์กลางการประมูลทาสมาก่อน
ที่ลานกึ่งวงกลมอีกด้านหนึ่งของเมืองคือสถานที่ประมูลทาสที่สร้างอย่างแข็งแรงและเป็นเรื่องเป็นราวเอามาก ๆ เพราะก่ออิฐถือปูนทำเป็นอัฒจันทร์อย่างดี
เมื่อการค้าทาสเฟื่องฟูและนำความร่ำรวยมหาศาลมายังขึ้นในดินแดนนี้ ลานข้างโบสถ์แองกลิคันนั้นมีขนาดไม่พอเสียแล้ว ลานกึ่งวงแห่งนี้จึงเกิดขึ้นมาในยุคหลัง
ตรงกลางคือเวทีใหญ่ที่ใช้ทรมานทาสให้ผู้ประมูลตัดสินว่าสินค้าชิ้นนี้ควรได้ราคาเท่าใด
ทาสที่แข็งแรงจะโดนลำเลียงมาจุดนี้ และนำขึ้นประมูลทีละคน วิธีทดสอบง่าย ๆ คือการ 'โบย' สด ๆ บนเวที ราคาประมูลสูง ๆ นั้นจะมอบให้กับเจ้าของทาสที่ไม่มีเสียงร้องเลยสักแอะและไม่มีน้ำตาเลยสักหยด.... ส่วนใครที่ร้องออกมาถือเป็นของมีตำหนิ ไม่มีความอดทน ราคาก็จะถูกลง และในยุคที่การค้าทาสรุ่งเรืองถึงขีดสุด การประมูลด้วยวิธีนี้จะมีขึ้นตลอดวัน และติดต่อกันนานหลายวัน
การค้าทาสในทวีปแอฟริกานั้นมีแหล่งสำคัญอยู่ 2 แหล่ง ทางแอฟริกาตะวันออก มีซานซิบาร์ เป็นแหล่งใหญ่ ดำเนินการค้าโดยพ่อค้าชาวอาหรับ โดยมีตลาดรองรับอยู่ที่กลุ่มประเทศตะวันออกกลางมาจนถึงอินเดีย
ส่วนแอฟริกาตะวันตก มี ประเทศกาน่าและเบนินเป็นแหล่งสำคัญ ดำเนินการโดยพ่อค้าชาวยุโรปและอเมริกัน โดยมีตลาดสำคัญอยู่ที่กลุ่มประเทศในทวีปอเมริกา หมู่เกาะแคริบเบี้ยน และทวีปยุโรป
เมื่อการประมูลสิ้นสุดลง ทาสจะถูกลำเลียงมายังห้องเล็ก ๆ เพื่อเก็บกักขังไว้รอออกเดินทางไปกับเรือดอวอีกครั้งสู่ดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทาง
สภาพห้องนั้นไม่ต่างอะไรกับห้องขังที่สุดแสนจะหดหู่
ปัจจุบันห้องขังเหล่านี้มีชื่อเรียกขานกันว่า 'Airless Chambers' - ห้องที่ปราศจากอากาศ ความที่มันคือห้องใต้ดินขนาดเล็กที่ก่อจากปูน หรือหิน และมีเพียงช่องระบายอากาศเล็ก ๆ ที่ช่วยพัดพาอากาศบริสุทธิ์และนำแสงสว่างมาสู่ทาสชายหญิงที่แออัดยัดทะนานกันอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้นับรวมได้หลายสิบหรือหลายร้อยชีวิต
ทุกคนใช้พื้นที่นั้นเป็นที่อยู่ ที่กิน ที่นอน ที่ขับถ่าย.... ทุก ๆ อย่าง... จนกว่าเรือจะมาพาออกจากซานซิบาร์สู่ประเทศปลายทาง สุขอนามัยที่ไร้มาตรฐาน ความเป็นอยู่ที่หมักหมม ทำร้ายทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย
.....และด้วยเหตุนี้หลายคนจึง 'ไม่ได้ไปต่อ' และจบชีวิตลงตรงนี้
เรือสำเภาลำใหญ่ที่แล่นฉิวบนทะเลสวยสีครามใสนั้น กำลังลำเลียงทาสที่ยังมีลมหายใจออกจากซานซิบาร์ฝ่าคลื่นลมในมหาสมุทรอินเดียสู่ปลายทาง
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ทาสชายหญิงทั้งหลายจะได้เห็นแผ่นดินแอฟริกาอันเป็นบ้านเกิดของตัวเอง
ต่อให้ซานซิบาร์เป็นเกาะ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของทวีปแอฟริกา
เล่ากันว่าขณะที่ลำเลียงทาสชายหญิงหญิงไปขึ้นเรือนั้น หลายคนถึงขั้นเสียสติ ทุ่มตัวลงเอาศีรษะกระแทกพื้นเพื่อฆ่าตัวตาย และมีอีกหลายคนที่คว้าทรายเข้าปากด้วยมือที่ล่ามโซ่ ก่อนขย้อนทรายลงท้อง
ทุกวันนี้เราสามารถเดินชมประวัติศาสตร์ของการค้าทาสในซานซิบาร์ได้ ทุกสิ่งยังคงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การค้าทาสที่ตั้งอยู่ข้างวิหารแองกลิคันหลังใหญ่หลังนั้น
ผมจำได้ว่าผมไปยืนดูประติมากรรมทาสบริเวณนั้นอยู่นาน.....น้ำตารื้น
ทำยังไงผมก็ไม่มีวันเข้าใจว่ามนุษย์สามารถปฏิบัติต่อกันเยี่ยงนี้ได้อย่างไร
สำหรับหลายคน เกาะที่สวยงามอย่างซานซิบาร์คือสรวงสวรรค์ แต่สำหรับอีกหลายชีวีต ที่นี่คือนรก ที่ ๆ ยัดเยียดให้เสรีชนคนหนึ่งเปลี่ยนสถานะเป็นสินค้าได้ทันที
ขอบคุณแหล่งที่มา happeningbkk.com
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment