Friday, May 31, 2019
รวม 5 ประเทศ ดูแสงเหนือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ใครๆ ก็อยากเจอ
รวม 5 ประเทศ ดูแสงเหนือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ใครๆ ก็อยากเจอ
รวม 5 ประเทศ ดูแสงเหนือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ใครๆ ก็อยากเจอ
อีกหนึ่งการท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คนคงจะมีทริป ดูแสงเหนือ หรือแสงออโรรา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติบนท้องฟ้าตอนกลางคืน พบได้ในบริเวณแถบขั้วโลก โดยนักวิทยาศาสตร์อธิบายไว้ว่า แสงเหนือ เกิดจากการชนกันระหว่างก๊าซในชั้นบรรยากาศโลกและอนุภาคไฟฟ้าที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดลำแสงสีต่างๆ มีทั้งสีเขียว, สีฟ้า, สีชมพู, สีแดง, สีเหลือง หรือสีม่วงก็มี ส่วนใหญ่จะพบเหตุการณ์นี้ในช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม มีนาคม และเมษายน เวลาท้องฟ้ามืดมิด หรือเวลาประมาณ 22.00-24.00 น. ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่ใครๆ ก็อยากไปเห็นด้วยตาตัวเอง ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่าแล้วจะไปชมปรากฏการณ์นี้ได้ที่ไหนในโลกบ้าง วันนี้มัชรูมทราเวลรวบรวมพิกัด 5 ประเทศ ล่าแสงเหนือ มาให้แล้วค่ะ!
1.กรีนแลนด์ (Greenland)
มาชมกันต่อที่ประเทศกรีนแลนด์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไอซ์แลนด์เท่าไหร่ ด้วยความที่มีอากาศหนาวเหน็บ พร้อมกับมีแสงเหนือพาดผ่านท้องฟ้าไม่ให้ค่ำคืนเงียบเหงา จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยว ส่วนพิกัดล่าแสงเหนือแนะนำ เช่น Lake Aurora, เมือง Ilulissat Town จริงๆ ก็ชมได้เกือบทั่วเมืองล่ะค่ะ
ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
2.นิวซีแลนด์ (New Zealand)
เดินทางท่องโลกออกไปล่าแสงออโรร่ากันที่ประเทศนิวซีแลนด์ ดินแดนซีกโลกใต้ นอกจากธรรมชาติอุดมสมบูรณ์น่าเที่ยวแล้ว หากคุณมีโอกาสได้เที่ยวทางเกาะใต้และโชคดีหน่อยคุณจะได้เจอแสงเหนือรูปไข่แนวกว้างสูงสุดถึง 5,000 กิโลเมตร ซึ่งไม่ได้พบบ่อยครั้งนัก โลเคชั่นเด็ดที่แนะนำดูแสงใต้ ได้แก่ ทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo), เมือง Invercargill, เกาะไซส์เล็ก Stewart Island, เมืองแคทลินส์ (The Catlins) และเมืองยอดนิยม Dunedin ต้องไปสักครั้งนะ
ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนมีนาคม
3.สวีเดน (Sweden)
ข้ามมาที่ยุโรปกับเมืองสวยร่ำรวยประวัติศาสตร์และยังมีธรรมชาติน่าอิจฉา นั่นก็คือ สวีเดน กับสถานที่ ดูแสงเหนือ ในอุทยานแห่งชาติอบิสโก (Abisko National Park) อลังการด้วยฉากภูเขาและทะเลสาบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของออโรร่าสกายสเตชั่น (Aurora Sky Station) สุดเงียบสงบ ตั้งอยู่ในเขตเมืองคิรูน่า (Kiruna) ทางตอนเหนือของสวีเดน ห่างจากเมืองหลวงสต็อกโฮล์มประมาณ 1,200 กิโลเมตรล่ะจ้า สามารถนั่งเครื่องบินในประเทศมาลงสนามบิน Kiruna Airport หรือนั่งรถบัสมาได้
ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนกันยายน-มีนาคม
4.รัสเซีย (Russia)
มาต่อกันที่พิกัด ดูแสงเหนือ แบบไม่ต้องขอวีซ่า เที่ยวได้เลย นั่นก็คือ รัสเซีย ที่นอกจากเมืองจะสวยเว่อร์น่าจดจำแล้ว หากจังหวะเวลาเป็นใจก็ยังมีแสงออโรร่าธรรมชาติให้ได้ชมอีกด้วย โดยพิกัดที่ชมได้จะอยู่ที่ เมืองเมอร์มังส์ก (Murmansk) ทางตอนเหนือของรัสเซีย ใกล้กับฟินแลนด์ นอกจากไป ล่าแสงเหนือ แล้ว ก็อย่าลืมกิจกรรมตกปลาน้ำแข็งด้วยนะ
ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนกุมภาพันธ์
5.อลาสก้า, อเมริกา (Alaska America)
รู้ไหมว่าอเมริกาก็มีแสงเหนือกับเขาเหมือนกันนะ สามารถชมได้ที่ เมืองแฟร์แบงค์ (Fairbanks) ในพื้นที่อลาสก้านั่นเองค่ะ บ้างก็ว่าที่นี่เป็นมุมที่ดูแสงเหนือที่สวยที่สุดในโลก! ถ้าอยากรู้ว่าจะสวยจริงมั้ยคงต้องออกเดินทางไปพิสูจน์ด้วยสายตาของตัวเองล่ะ!
ช่วงเวลาแนะนำ : เดือนกันยายน ถึงเมษายน
ครบแล้วกับ รวมพิกัด 5 ประเทศล่าแสงเหนือ ในบางประเทศมีให้คุณชมตลอดทั้งปี แต่บางประเทศก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสภาพอากาศด้วยนะคะ ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับความโชคดีด้วยล่ะค่ะ แต่อย่างไรก็ดี ก่อนออกเดินทางต้องวางแผนให้ดี แล้วทริปนี้จะมีความสุขกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ใครๆ ก็อยากเจอนี้แน่นอน
ขอบคุณแหล่งมา www.mushroomtravel.com
Thursday, May 30, 2019
5 สถาน ที่ เที่ยว อิน โด นี เซีย ไม่ ไป ไม่ ได้ แล้ว!
วันหยุดยาวแบบนี้ ท่านใดไม่ได้ไปเที่ยวที่อยู่ มาร่วมทริปไปเที่ยวอินโดนีเซียกับเราดีกว่าค่ะ อินโดนีเซียหรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างคาบสมุทรอินโดจีนกับทวีปออสเตรเลีย และระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก
อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีประชากรเป็น อันดับ 4 และมีหมู่เกาะมากที่สุดในโลกเลยค่ะ และอินโดนีเซีย ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย และมีหลากหลายวัฒนธรรม แต่เราขอเสนอ 5 สถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ ที่หากไปถึงอินโดนีเซียแล้วไม่มา ถือว่าพลาดสุดๆเลยค่ะ เอ๊า! ผู้ร่วมทริปทุกท่าน พร้อมมั้ย ..
1.บาหลี
หากพูดถึงการมาเที่ยวอินโดนีเซียแล้ว หลายท่านคงนึกถึงบาหลีเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอนใช่มั้ยคะ และบาหลียังเป็นสถานที่เที่ยวที่ยอดนิยมสุดๆ ด้วยความสวยงามของภูมิประเทศที่หลากหลาย ที่มีลักษณะภูมิศาสตร์ของภูเขาไฟ กับนาข้าวแบบขั้นบันได แถมยังเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสายของบาหลี นอกจากบาหลีจะมีภูมิประเทศที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆแล้ว บาหลียังโดดเด่นในเรื่องศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรมและศาสนามากกว่าพันปีอีกด้วยค่ะ
2.มหาเจดีย์บุโรพุทโธ
วัดบุโรพุทโธ ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของศาสนาพุทธลัทธิมหายานที่มีความเก่าแก่ และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก โดยสถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงความเป็นอัจฉริยะสูงสุดทางศิลปะสมัยไศเลนทรา ที่แตกต่างจากโบราณสถานทุกแห่งในชวา และยังเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธมาอย่างช้านาน
องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้บุโรพุทโธเป็นมรดกโลก ในปีพ.ศ. 2534 บุโรพุทโธ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในภาคกลางของเกาะชวา ห่างจากยอกยาการ์ตาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 40 กิโลเมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 1293 - 1393 โดยบุโรพุทโธเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ถ้าไม่นับนครวัดของกัมพูชาซึ่งเป็นทั้งศาสนสถานของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและศาสนาพุทธ บุโรพุทโธจะเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก บุโรพุทโธสร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งราชวงศไศเลนทร์ เป็นสถูปแบบมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือ พุทธศักราช 1393 บุโรพุทโธสร้างด้วยหินภูเขาไฟประมาณ 2 ล้านตารางฟุต บนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 121 เมตร สูง 403 ฟุต เป็นรูปทรงแบบปิรามิด มีลานเป็นชั้นลดหลั่นกัน 8 ชั้น และใน 8 ชั้นนั้น 5 ชั้นล่างเป็นลาน 4 เหลี่ยม 3 ชั้นบนเป็นลานวงกลม และบนลานกลมชั้นสูงสุดมีพระสถูปตั้งสูงขึ้นไปอีก 31.5 เมตร เป็นมหาสถูปที่ระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นกันไป หากมองจากพื้นดินในระยะไกล บุโรพุทโธ คือสถูป ซึ่งเป็นรูปแบบของจักรวาลที่มีส่วนประกอบในแนวตั้งสามส่วนด้วยกันคือ ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสรองรับองค์สถูปและยอดฉัตร ถ้าเดินตามเส้นทางแสวงบุญเก่าแก่จากทางตะวันออก ก้าวขึ้นอนุสรณ์สถานที่ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ และมีเฉลียงรอบ เดินวนรอบเฉลียงตามเข็มนาฬิกา จะเห็นว่ารูปนูนแกะสลักและรูปปั้นทุกชั้นล้วนเป็นส่วนสำคัญขององค์รวม
3.อุทยานแห่งชาติโคโมโด
อุทยานแห่งชาติโกโมโด เป็นอุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ใกล้หมู่เกาะซุนดาน้อย ระหว่างจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออกกับจังหวัดนูซาเติงการาตะวันตก อุทยานประกอบด้วยเกาะใหญ่ 3 เกาะ คือ เกาะโกโมโด เกาะรินจา และเกาะปาดาร์ รวมทั้งยังมีเกาะเล็ก ๆ อีกมากมาย ซึ่งเกาะเหล่านี้กำเนิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ มีพื้นที่รวมทั้งหมด 1,817 ตารางกิโลเมตร (ส่วนที่เป็นแผ่นดิน 603 ตารางกิโลเมตร) มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน ก่อตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2523 เพื่ออนุรักษ์มังกรโกโมโด ซึ่งเป็นสัตว์เฉพาะถิ่น ภายหลังยังจัดเป็นพื้นที่สำหรับอนุรักษ์สัตว์ป่าและสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ อีกด้วย ใน พ.ศ. 2534 อุทยานได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และถูกจัดให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติยุคใหม่อีกด้วย
4.เกาะกีลี
อีกหนึ่งสถานที่สุดเด็ดของนักท่องเที่ยว ที่หากมาเที่ยวอินโดนีเซีลแล้วพลาดไม่ได้เลย หมู่เกาะกีลี ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะลอมบอก (Lombok) ในประเทศอินโดนีเซีย ประกอบไปด้วย 3 เกาะ คือ Gili Trawangan, Gili Meno, และ Gili Air โดยทั้งหมดตั้งเรียงรายอยู่นอกชายฝั่งของเกาะลอมบอก ล้อมรอบไปด้วยทะเลสีฟ้าสดใส มองเห็นเป็นผืนน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์งดงาม ยามกลางวันหมู่เกาะเหล่านี้จะเงียบสงบ ด้วยหาดทรายสีขาวละเอียด น้ำใสและแนวปะการังความงามใต้ท้องทะเลลึก
5.โทราจาแลนด์
ใครที่ชอบในเรื่องสิ่งเร้นลับ ปริศนา และความเชื่อ ที่นี่อาจจะเป็นอีกสถานที่ที่คุณสนใจอยู่ก็เป็นได้ โทราจาแลนด์ ดินแดนลึกลับแห่งอิเหนานั้น มีความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ที่ตองโคนัน โดยมีลักษณะเด่นตรงที่หลังคามีขนาดใหญ่กว่าตัวบ้านรูปร่างคล้ายเรือ หน้าบ้านประดับด้วยเขาควายลักษณะเป็นมุมแหลม 2 ด้านเว้าลงมาตรงกลาง อาจจะดูแปลกๆสะดุดตาไปบ้าง และสิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือบ้านที่โทราจาแลนด์นั้น เอาไว้สำหรับเก็บศพเพื่อรอการทำพิธี ก่อนจะถูกฝังที่รังเล็กๆในโพรงต้นไม้ และนอกจากความแปลกแล้ว ที่นี่ยังมีกาแฟที่โดดเด่นอีกด้วย
ขอบคุณแหล่งที่มา www.premiumworldtour.com
Wednesday, May 29, 2019
สถาน ที่ ท่อง เที่ยว สุด ฮอต ใน ประ เทศไทย ที่ต้องไปเยือน
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยมีอยู่มากมาย ทั้งที่เที่ยวทะเล ภูเขา วัดวาอาราม หรือวิถีชีวิตของผู้คน แต่บางคนก็เลือกไม่ถูกไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี เราเลยหยิบเอาที่เที่ยวฮอตฮิตติดลมบนมาแนะนำ
ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ สภาพอากาศเป็นอย่างไร คนไทยก็ชื่นชอบที่จะออกไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อชาร์จแบตฯ เพิ่มพลังชีวิตให้กับตัวเอง จึงไม่แปลกที่พอถึงเทศกาลหยุดยาวทีไร สถานที่ท่องเที่ยวฮอต ๆ ทั่วประเทศจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ เสพวิวสวย ๆ ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน หรือชิมอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ วันนี้เราเลยคัดเน้น ๆ 50 สถานที่ท่องเที่ยว ยอดนิยมมากระตุ้นต่อมเที่ยวกันค่ะ ไปดูสิว่าคุณเคยไปเยือนมาแล้วหรือยัง โดยเริ่มกันที่...
1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
ดินแดนที่อุดมไปด้วยผืนน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ มีเกาะหลัก ๆ ทั้งหมด 11 เกาะ ได้แก่ เกาะหูยง (เกาะหนึ่ง), เกาะปายัง (เกาะสอง), เกาะปาหยัน (เกาะสาม), เกาะเมียง (เกาะสี่), เกาะห้า, เกาะหก, เกาะปายู (เกาะเจ็ด), เกาะสิมิลัน (เกาะแปด), เกาะบางู (เกาะเก้า), เกาะตาชัย และเกาะบอน ซึ่งล้วนแต่มีหาดทรายที่สวยงาม พร้อมกับแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นสัตว์ทะเลที่หลากหลาย นอกจากนี้หมู่เกาะสิมิลันยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวที่สวยงามตามเกาะต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม - 15 พฤษภาคมของทุกปี
2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
สวรรค์แห่งการดำน้ำที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการมาสัมผัสสักครั้ง เกาะต่าง ๆ เต็มไปด้วยแนวปะการังหลากสีสัน เป็นสถานที่ดำน้ำลึกและน้ำตื้นยอดนิยมของคนทั่วโลก ผืนน้ำทะเลใสสะอาด พร้อมทั้งหาดทรายยังขาวเนียนนุ่ม มองดูโดดเด่นกลางทะเลอันดามัน บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม - 15 พฤษภาคมของทุกปี
3. หมู่เกาะพีพี
ภาพของเวิ้งอ่าวคู่ อันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะพีพี ได้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยือนทะเลไทยอย่างมากมาย หาดทรายขาวของทั้งอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม พร้อมทั้งน้ำทะเลใส สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวตลอดมา อีกทั้งอ่าวมาหยาอันเลื่องชื่อ ซึ่งอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของภูเขาหินปูน จะทำให้คุณจดจำเกาะพีพีไม่มีวันลืม
4. เกาะหลีเป๊ะ
สัมผัสหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส พร้อมทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ และยังชุกชุมไปด้วยปลาและสัตว์ทะเลอีกหลากหลายชนิดของเกาะหลีเป๊ะ เรียนรู้วิถีชีวิตชาวอูรักลาโว้ย และร่วมสนุกสนานกับสีสันบนเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลอันดามันที่คุณจะไม่มีวันลืม
ขอบคุณแหล่งที่มา travel.kapook.com
Monday, May 27, 2019
เที่ยว ลาส เวกัส มหาคร แห่ง แสงสี
มหาครแห่งแสงสี สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด
ลาสเวกัส ซึ่งได้ชื่อว่า “เมืองแห่งบาป” (Sin City) เนื่องจากอาชญากรรมในอดีตและเป็นแหล่งการพนันนั้น ไม่ได้มีแค่สล็อตแมชชีน โต๊ะเล่นโป๊กเกอร์ และโบสถ์จัดงานแต่งงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสถานที่น่าสนใจอยู่มากมาย อย่างคาสิโนตามแนวเดอะสตริป (The Strip) ที่รวบรวมสถานที่สำคัญของโลกต่างๆ มาจัดแสดงไว้ที่เดียว และสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ เป็นต้น สำหรับบางส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใน ลาสเวกัส มี ดังนี้
1.โรงแรมและคาสิโนนิวยอร์ก-นิวยอร์ก (New York-New York Hotel & Casino)
เดอะบิ๊กแอปเปิล (The Big Apple) เป็นรถไฟเหาะตีลังกาตัวแรกของโลกที่สามารถม้วนเกลียวและดำดิ่งได้ 180 องศา และสามารถทำความเร็วได้ถึง 108 กม./ชม. โดยเดอะบิ๊กแอปเปิลตั้งอยู่นอกอาคารในโรงแรมและคาสิโนนิวยอร์ก-นิวยอร์กและดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจกว่า 1.4 ล้านคนต่อปี
2.พิพิธภัณฑ์แก๊งมาเฟีย (Mob Museum)
พิพิธภัณฑ์แก๊งมาเฟียในย่านใจกลางเมืองจะนำผู้มาเยือนพิพิธภัณฑ์ย้อนเวลากลับไปในยุคที่อาชญากรและองค์กรอาชญากรรมต่างๆ แผ่อิทธิพลใน ลาสเวกัส และทั่วทั้งสหรัฐฯ อย่างอาชญากร ร้านขายเหล้าผิดกฎหมาย การโกงบ่อนคาสิโน ตลอดจนถึงอาชญากรรมในยุคปัจจุบัน ผ่านนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ
3.เดอะเวเนเชียน (The Venetian)
เดอะเวเนเชียนเป็นที่ตั้งของคาสิโนและศูนย์การค้าชื่อ แกรนด์คาแนล (Grand Canal) อันโด่งดังเนื่องจากมีการสร้างคลองสไตล์เมืองเวนิสของอิตาลีขึ้นมาในศูนย์การค้าและนำเรือกอนโดล่าพร้อมกับคนแจวเรือที่แต่งตัวเต็มยศและร้องเพลงขณะพายเรือไปด้วยมาให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งรับรองได้ว่าด้วยบรรยากาศที่เรือกอนโดล่าแล่นผ่านจะทำให้คู่รักที่โดยสารมากับเรือได้จูบกันใต้สะพานรีอัลโต (Rialto Bridge) หรือสะพานอื่นๆ ตามความเชื่อที่ว่าการจูบกับคู่รักบนเรือกอนโดล่าที่กำลังแล่นผ่านใต้สะพานขณะพระอาทิตย์ตกดินจะทำให้ความรักนั้นยืนยาวชั่วนิรันดร อย่างแน่นอน
4.เดอะสตริป (The Strip)
เดอะสตริปซึ่งตั้งอยู่ตามแนวถนน ลาสเวกัส บูเลอร์วาร์ดเป็นที่ตั้งของคาสิโนขนาดยักษ์พร้อมโรงแรมหลากหลายแห่งที่มักมีชื่อและธีมซึ่งสร้างความโรแมนติก ความลี้ลับ และจุดหมายปลายทางอันห่างไกลที่รอการค้นพบ และได้รับการตกแต่งอย่างประณีตและเอาใจใส่เพื่อสร้างบรรยากาศแฟนตาซี นักท่องเที่ยวสามารถเดินแวะระหว่างคาสิโนได้โดยสะดวกผ่านสะพานเชื่อมหรือทางเดินใต้ดิน หรือนั่งรถไฟรับ-ส่งระหว่างกันได้
ขอบคุณแหล่งที่มา amazingthaisea.com
Sunday, May 26, 2019
5 สุด ยอด เมือง ท่องเที่ยว ใน เนเธอร์แลนด์ NETHERLANDS
เที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์ มีอีกชื่อที่ผู้คนนิยมเรียกกันติดปาก คือ ฮอลแลนด์ (Holland)
เป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรปตะวันตก เมืองที่ใหญ่ที่สุดใน เนเธอร์แลนด์ มีถึง 4 เมืองเลยนะคะ ได้แก่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) รอตเตอร์ดัม (Rotterdam) กรุงเฮก (The Hague) และ อูเทรคต์ (Utrecht) เมื่อมาเที่ยวประเทศนี้เราจะได้พบกับสิ่งที่น่าสนในมากมาย เช่น ภาพวาดชิ้นเอกของเหล่าจิตรกรอันดับโลก ทุ่งกังหันลม สวนดอกทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สถาปัตยกรรมที่ก้าวล้ำ และสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่อันน่าอัศจรรย์ ฮั่นแน่ !! อยากทราบแล้วใช่มั๊ยคะว่า แต่ละที่อยู่ที่ไหนบ้าง งั้นอย่ารอช้า ไปทำความรู้จักกับ 5 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวกันเล้ยยย
เที่ยวอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam, Netherlands)
เมืองอัมสเตอร์ดัม คือ เมืองหลวงและ เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงอันดับโลก มีคลองมากกว่า 165 แห่ง จนได้รับขึ้นเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ (UNESCO) นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์งานศิลปะของจิตรกรชื่อดังอันดับโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สวยงามอีกมากมาย ยังไม่หมดนะคะ สำหรับคนที่ชอบปั่นจักรยาน ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีทางจักรยานที่ดีที่สุดในโลก OMG นี่มันสวรรค์ของนักปั่นชัดๆ
เที่ยวสวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof, Netherlands)
เคอเคนฮอฟ (Keukenhof) หมายถึง สวนครัว (Kitchen garden) เป็นสวนดอกทิวลิปที่มีชื่อเสียง และใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว่า 200 เฮกตาร์ ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากเมืองอัมสเตอร์ดัมอีกด้วยค่ะ เมื่อมาเที่ยวที่นี่ คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของดอกไม้นานาชนิด เช่น ดอกทิวลิป ดอกไฮยาซินธ์ ดอกกล้วยไม้ ดอกกุหลาบ ดอกคาร์เนชั่น และดอกลิลลี่ เป็นต้น ว้าวว ช่างสวยงาม สดชื่นอะไรเช่นนี้
เที่ยวรอตเตอร์ดัม (Rotterdam, Netherlands)
ขอแนะนำเมืองที่ทันสมัยที่สุด ของประเทศเนเธอร์แลนด์ สมัยก่อนเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่รุ่งเรืองที่สุดในศตวรรษที่ 13 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังพัฒนาสู่อุตสาหกรรมและการค้าขาย แต่ในปี ค.ศ. 1940 ประเทศเยอรมันได้ทิ้งระเบิดเพื่อทำลายศูนย์กลาง และท่าเรือของเมืองแห่งนี้ลง หลังจากที่ถูกทำลาย เมืองนี้ได้ถูกสร้างใหม่ ทำให้มีตึกรูปร่างแปลกๆ ล้ำสมัยเกิดขึ้นมากมาย และกลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองรอตเตอร์ดัมไปเลย
ปัจจุบันเมืองรอตเตอร์ดัมเป็นศูนย์กลางการค้าโลกในยุโรป อเมริกา และแอฟริกา ทำให้ที่นี่มีระบบการขนส่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งระหว่างประเทศหรือภายในประเทศ เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัส รถราง และรถไฟ ที่ต้องสะอาดและตรงเวลา
เที่ยวไลเดน (Leiden, Netherlands)
เมืองไลเดนเป็นเมืองเก่าที่มีความงดงามทางประวัติศาสตร์มากมาย ถ้าพูดถึงเมืองไลเดน ต้องนึกถึงมหาวิทยาลัยไลเดน (Leiden University) มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยที่เจ้าชายวิลเลม อเล็กซานเดอร์ (King William Alexander) กษัตริย์แห่งเนเธอร์แลนด์ ได้ทรงสำเร็จการศึกษามาค่ะ นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นบ้านเกิดของจิตรกรชื่อดังอย่าง แร็มบรันต์ (Rembrandt) อีกด้วยนะคะ
เที่ยวกรุงเฮก (The Hague)
กรุงเฮกเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากเมืองอัมสเตอร์ดัม และเมืองรอตเตอร์ดัม มีประชากรมากกว่า 500,000 คน เป็นที่ตั้งของรัฐสภา และรัฐบาลดัตช์ นอกจากนี้ยังมี ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลก และศาลอาญาระหว่างประเทศตั้งอยู่ที่เมืองนี้ทั้งหมดอีกด้วย แปลกมากๆ เลยค่ะ ทั้งที่ไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่กลับมีสถานที่สำคัญของโลกมากมายตั้งอยู่ในเมืองนี้
ขอบคุณแหล่งที่มา www.yingpook.com
Saturday, May 25, 2019
ที่เที่ยว ในสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดน ในฝัน!
ดินแดนในฝัน!
สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของ ภูเขา ทะสาบ และธรรมชาติสวยๆ เป็นประเทศที่หมายปองของใครหลายๆ คน วันนี้เรามี ที่เที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝัน! มาฝากกัน หากใครอยากหาสถานที่ฮันนีมูน นี่แหละหนึ่งในประเทศที่ไม่ควรพลาด!
1.“กลาเซียเอ๊กซ์เพรส” รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก วิ่งผ่านภูมิประเทศที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ ดินแดนในฝัน ผ่านชมอุโมงค์ สะพาน หุบเหว ผ่านสวิสแกรนด์แคนยอน และหุบเขาที่สูง 2,000 กว่าเมตร ตลอดเส้นทางท่านสามารถชมยอดเขาที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งได้
2.“แมทเธอฮอร์น” เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร รูปทรงปิรามิดที่งดงามตั้งอยู่บนพื้นที่ Zermatt ในส่วนของสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนเมืองของอิตาลี เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ดินแดนในฝัน มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามไม่เว้นแต่ละวัน เพราะที่นีมีความสวยงาม และมีเสน่ห์
3.“เจนีวา” เมืองที่เป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ สามารถสัมผัสถึงสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจทั้งสถานที่, กิจกรรมต่างๆ และ งานเทศกาล เราะจะพบกับการผสมผสานอย่างลงตัวของวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมกับความทันสมัยและแสงสียามค่ำคืนที่เจนีวา
4.“อินเทอร์ลาเก้น” เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่งในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ สามารถชมทัศนียภาพต่างๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้าไปสัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง Interlaken เป็นเหมือน ดินแดนในฝัน
ขอบคุณแหล่งที่มา travel.mthai.com
Subscribe to:
Posts (Atom)